ขุนแตะมาด้วยใจ 61 @เชียงใหม่
หลายคนอาจจะมองว่าการท่องเที่ยวเป็นการใช้เวลาว่างโดยเปล่าประโยชน์ แต่รู้หรือไม่ว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมากอย่างหนึ่งในการเปิดมุมมองใหม่ให้กับชีวิต
2 ด่านทดสอบความสามัคคีในหมู่คณะ ต้นไม้ล้มขวางทาง แถมน้องยังเป็นต้นหนามอีก ด่านสองโคลนทำให้รถติด55555 สนุก มันส์ ฮา ตลอดทาง Siwarin Poonwong กล่าวไว้ 30 ธันวาคม 2018 เวลา 13:18 น.
ลองออกไปเดินทางแบบใหม่ที่มีประโยชน์ จิตอาสาครั้งนี้มาด้วยใจจริงๆ โรงเรียนที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัด ออกไปเกือบร้อยกิโลเมตร เป็นหมู่บ้านของ ราชกาลที่ ๙ และพระราชินี ทรงได้เข้าไปช่วยอะไรหลายอย่าง หมู่บ้านแห่งนี้ผู้คนน่ารักกกกก การออกมาครั้งนี้ เอาของมาบริจาคเยอะแยะ เลยเดะ 5555 การที่ได้ออกมาเที่ยว ออกเดินทาง แบบนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาทำอะไรให้เด็กๆ เด็กบนดอยและเด็กในเมือง ความสะดวกสบายนั้นแตกต่างกันมากกกกกก เด็กบนดอยเห็นพวกเราเข้าไป เขาดีใจมากกกก แต่น้องทุกคนอายกล้อง 555 ไม่ค่อยอยากถ่ายภาพ
*** บอกเลยว่าทริปนี้ เป็นทริปที่มีความสุขที่สุด รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ของเด็กๆ ชวนอยากให้เรากลับ ไปอีกครั้ง เราก็คิดนะถ้าปีหน้าไม่ติดอะไรก็อยากไปทำอะไรแบบนี้อีก เอาของไปบริจาคมากมายทั้งเพื่อนให้และของตัวเองไป รวมกันไปถึงรถจะหนักเราก็ขนไป 555 ได้ไปทาสีผนังห้องเรียนใหม่ให้น้องๆ ด้วย ถึงอาจจะไม่สวยเท่างานรับเหมา 5555 แต่ทุกคนก็ได้ ร่วมมือกัน ทำด้วยใจ ความสุขไม่ใช่นก ความสุขผ่านมาแค่ให้จำ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป บรรยายความรู้สึกออกมาไม่หมด ................เก็บไว้ในความทรงจำ เที่ยวเพลิน กล่าวไว้ 28 ธันวาคม 2018 เวลา 21:25 น.
แม้จะลงทุน ลงแรง ไปในสถานที่ที่ไปยากลำบาก และไกลแค่ไหน ก็ไม่ได้การันตีว่าปลายทางจะต้องคุ้มค่าเสมอไป แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ประสบการณ์ระหว่างทางที่เดินทางไปนั้น คุ้มค่าเสมอ ถ้าเราต้องการเจอบางอย่างที่ไม่เคยเจอ เราก็ต้องลองทำบางอย่างที่ไม่เคยทำ นักเดินทางที่ดีไม่ใช่คนที่รู้ไปหมดเสียทุกเรื่อง แต่เป็นคนที่ชอบที่จะเรียนรู้ทุกเรื่องที่พบเจอ ระหว่างเดินทางคนเดียว เราจะได้พบว่าแท้จริงแล้วเราไม่ได้เดินทางลำพังหรอก เพราะผู้คนมากมายที่พบระหว่างทางล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางทั้งนั้น เราจ่ายเงินเพื่อซื้อการเดินทาง และได้เงินทอนเป็นประสบการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้ทอนมาเกิน
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบเที่ยวชอบออกเดินทางแบบ Local คือการที่เราเข้าไปแฝงตัวอยู่กับชาวบ้านไปดูในสิ่งที่เค้าทำ ไปมองชีวิตพวกเค้า และที่สำคัญการได้เข้าไปทักทายไปพูดคุยกับเค้า แล้วใครจะไปเชื่อ บรรดาลุงป้าน้าอานี่นะ นักปรัชญาตัวจริงเลยแหละ คุยกับเค้าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแต่ได้รับพลังบวก ได้รับความสบายใจกลับมาเป็นกองเท่าภูเขาเลย
การเตียมพร้อมในการออกเดินทาง
3. หัดเรียนรู้ภาษาท้องถิ่น สำคัญมากสำหรับการท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค ควรสื่อสารภาษาท้องถิ่นให้เป็น ให้ผู้คนเข้าใจในสิ่งที่คุณจะบอก แค่เรียนรู้บางคำที่จำเป็นต้องใช้ เท่านี้คุณก็สามารถเที่ยวได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
4. อย่าพึ่งเทคโนโลยีตลอดเวลา ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตไม่เว้นแม้แต่การเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเราก็สามารถใช้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ช่วยได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป จนลืมซึมซับประสบการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
5. การเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตท้องถิ่น เข้าสำนวนไทยที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” นั่นเอง ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหนบนโลก ก็พร้อมจะเรียนรู้ในการเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม วิถีชีวิต ในที่เหล่านั้น และสิ่งที่เกิดขึ้นคือมิตรภาพไร้พรมแดน
6. เคารพขนบธรรมเนียมประเพณี คุณจะให้เกียรติและเคารพในขนบธรรมนียม พิธีกรรม วัฒนธรรมต่าง ๆ เปิดใจยอมรับโดยไม่มีเส้นแบ่ง ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยกับเรื่องเหล่านั้นหรือไม่ก็ตาม คุณจะยอมรับในวิถีชีวิตของเขาในแบบที่มันเป็น
7. คุณจะมองเห็นแต่ด้านบวกนักเดินทางส่วนมากมักจะมีมุมมองด้านบวก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสวยงาม อาจจะเจออุปสรรคระหว่างทาง แต่ทุกอย่างคือความสนุก คุณคิดว่าทุกการเดินทางถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า
8. ไม่หวั่นต่อความยากลำบาก
ในการเดินก้าวออกจากบ้าน นั่นเท่ากับว่าคุณพร้อมที่พบเจอกับความยากลำบากโดยไม่ย่อท้อ ถ้าเป็นในต่างแดนด้วยแล้วยิ่งไม่มีความแน่นอน แต่คุณก็พร้อมจะเรียนรู้ในทุกการเดินทางสู่การเป็นนักผจญภัย
9. พร้อมเจอกับเรื่องเหนือความคาดหมาย
ในทุกการเดินทาง ย่อมมีเรื่องราวให้คุณได้ประหลาดใจและคาดไม่ถึง คุณมีโอกาสจะเจอเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในแผนมากมาย ทั้งธรรมชาติ ผู้คน และอาหารการกิน นี่แหละคือเสน่ห์ของการผจญภัยอย่างแท้จริง
10. คุณไม่กลัวคนแปลกหน้า
การเดินทาง ทำให้เราได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา จากคนแปลกหน้า เริ่มพัฒนาจนเป็นเพื่อนใหม่ มิตรภาพดี ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะจากนักเดินทางด้วยกันเอง หรือผู้คนท้องถิ่น พวกเราคือเพื่อนกัน
Comments
Post a Comment